วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

JYPE เปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ Daum ของ 2PM

Credit: Kor - Thai by Tik

เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา เว็บแฟนไซต์อย่างเป็นทางการของ 2PM ได้เปลี่ยนหน้าเว็บใหม่ โดยมีรูปของทั้ง 7 หนุ่ม และรูปของเจย์บอมเดี่ยวๆบนหัวเว็บไซต์ รวมถึงข้อความประกอบรูปว่า ..

ทูพีเอมและฮอทเทส "อย่าลืมนะคะ...ว่ามีเราที่อยู่เคียงข้างพวกคุณเสมอ
เราจะรอ... รอจนกว่าจะกลับมาเป็นหนึ่งอีกครั้ง"

"ตอนนี้...รอยยิ้มอันสดใสของพวกเขา เราจะปกป้องเอง"

ขอโทษค่ะ
รักนะคะ
และรักค่ะ
 
 
---------------------------------------------------------------------------------------------
 ข้อความของเพื่อนจาก Seattle ของเจบอม
Credit :Kor-Eng by jjjannia @ soompi Eng-Thai by WAWA

SourceDaum ผมเป็นเพื่อนสมัยยังเรียนอยู่ไฮสคูลของเจบอมครับ

ย้อน ไปในช่วงที่ xan** และ mysp*** กำลังเป็นที่นิยมอยู่นั้นถ้านับตามอายุแล้ว ตอนนั้นคงจะเป็นช่วงระหว่างมัธยมปลายราวๆ นั้นใช่ไหม? มันน่าเศร้านะที่ข้อความที่ถูกเขียนตั้งแต่สมัยนั้นแถมยังเป็นข้อความส่วน ตัวเขียนถึงกันในหมู่เพื่อนสนิทกลับถูกนำมาวิจารณ์สู่สาธารณะชนแบบนี้

ก่อน อื่น ผมจำเป็นจะต้องให้ทุกคนสนใจตรงนี้ก่อนว่าศิลปินไอดอลเหมือนอย่างที่มีใน ประเทศเกาหลีนั้นไม่ได้เป็นที่นิยมมากนักในหมู่วัยรุ่นไฮสคูลของอเมริกา ในเกาหลีหรือญี่ปุ่น พวกวงบอยแบนด์อย่างเช่น Backstreet Boys และ N'Sync นั้นโด่งดังมากๆ แต่ในอเมริกาตอนนั้น วงไอดอลแบบนี้เจาะกลุ่มเป้าหมายเพียงแค่พวกเด็กนักเรียนประถมหรือมัธยมต้น ผู้หญิงเท่านั้น ถ้าคุณฮัมเพลงของ Backstreet Boys ให้ใครได้ยินเข้าคุณจะถูกล้อแน่ๆ ว่านั่นมันเพลงของ Backstreet Boys นี่ แล้วก็โดนแกล้ง ขณะที่อเมริกาดูเหมือนจะมีความคิดที่เปิดกว้าง ผมคิดว่าถ้าคุณได้ลองมาเจอกับตัวเองก็จะรู้ เรื่องอคติแย่ๆ พวกนี้ยังคงมีอยู่

เจบอมเป็นที่รู้จักตั้งแต่สมัยไฮสคูลเขาอยู่ใน กลุ่มนักเต้น B-Boy ที่ค่อนข้างดังในหมู่เพื่อนฝูง แถมยังเป็นสมาชิกหลักของทีม ในช่วงพักกลางวัน โต๊ะที่เจบอมนั่งกินข้าวอยู่มักจะมีคนคอยล้อมหน้าล้อมหลังเสมอ เขาชอบเล่นสนุกเฮฮามากๆ และแน่นอน เป็นคนที่มีความสามารถมากเช่นกัน

จาก ที่ผมทราบมา เจบอมเข้าร่วมการออดิชั่นของ JYP หลังจากได้รับการแนะนำจากป้าของเขาเพราะว่าเขามีความสามารถมากเกินกว่าจะ ปล่อยให้มันเสียเปล่าได้ และที่เจบอมตัดสินใจออดิชั่นนั้นก็เป็นเพราะมันคือเส้นทางที่จะทำให้เขาได้ แสดงความสามารถของตัวเองออกมา หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถูกเลือก และจากพวกเราเพื่อไปเกาหลี

เขาไม่เคยไปโรงเรียนที่เกาหลีมาก่อน จึงไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่เขารู้จักอยู่ที่นั่นและด้วยเหตุผลของความไม่ คุ้นเคยในวัฒนธรรมของบรรดาเพื่อนๆ ชาวเกาหลี เขาเลยไม่สามารถจะพูดคุยกับคนพวกนั้นได้ นอกจากนั้น ด้วยวัยที่คุณควรจะกำลังหัวเราะร่าและพูดคุยกันอย่างเพลิดเพลินตอนเดิน ชอปปิ้งกับเพื่อนๆ และหาเรื่องแอบกินเบียร์เขากลับต้องติดแหง็กอยู่ในห้องซ้อมเหมือนนกถูกขัง อยู่ในกรง ฝึกหนักจนกว่าเขาจะเหนื่อย มันจึงกลายเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่เขาจะรู้สึกกดดัน

อีกอ ย่าง ด้วยความที่เป็นเด็กที่ชอบเต้น break dance และร้อง rap อยู่กับคนที่สวมเสื้อหลวมโพรกและกางเกงย้วยๆ พูดคุยกันเฮฮาบ้าบอไปตามเรื่อง เขาต้องรู้สึกเคว้งมากแน่ๆ กับการถูกฟอร์มเข้าไปในกลุ่มวงไอดอลแบบที่เพื่อนๆ ของเขาเคยปฏิเสธนักหนา และถ้าผมจะต้องชี้แจงอะไรสักอย่าง ผมออกตัวเลยว่าไม่แน่ใจนักว่าทุกคนในอเมริกาเป็นแบบนี้หรือเปล่าแต่ในซีแอ ตเทิลที่ผมและเจบอมอาศัยอยู่ คุณไม่มีทางแม้แต่จะฝันเห็นตัวเองใส่เสื้อผ้าแบบที่พวกไอดอลเกาหลีเขาใส่กัน รวมไปถึงการแต่งหน้าแต่งตาเข้มๆ แบบนั้นเพราะคุณจะถูกมองว่าเป็นพวกรักร่วมเพศแน่ๆ

สำหรับเด็กจำนวน หนึ่งที่จัดประเภทตัวเองเป็นกลุ่มแกงค์สเตอร์ (หรือที่คนเกาหลีเค้าเรียกว่า 일진 (iljin) นั่นแหละ) และทำตัวแบบดิบๆ ห่ามๆ (เจบอมจัดว่าเข้าข่าย) กับไอ้การที่จะต้องมาแต่งหน้าแต่งตา กันคิ้ว และสวมกางเกงยีนส์รัดติ้วน่ะการที่ต้องทำแบบนั้น ให้บอกกระดากใจที่จะทำยังน้อยไปด้วยซ้ำ

การที่คุณต้องเจอกับความเครียดมากขนาดนั้นในช่วงวัยรุ่นที่คุณอยากจะออกไปเผชิญหน้ากับประสบการณ์ใหม่ๆ
มันเป็นเรื่องร้ายแรงมากนักหรือแค่จะบ่นถึงความยากลำบากของตัวเองในช่วงเวลานั้นให้กับเพื่อนสักคนที่อยู่ให้คุณพึ่งพา?

ถ้า หากเป็นคุณ คุณจะสามารถทิ้งสิ่งทุกสิ่งที่อยู่ตัวเองมี แล้วไปพึงพอใจอยู่กับช่วงเวลา 5 ปีในที่ไกลๆ เพียงลำพังโดยที่ไม่แม้แต่จะพูดภาษาของเขาได้งั้นหรือครับ?

เจบอมไม่ ได้เกลียดประเทศเกาหลีเหมือนอย่างที่พวกคุณทุกคนอาจคิดกัน และการที่เป็น พลเมืองของอเมริกาซึ่งเข้ามาทำงานหาเงินที่ประเทศเกาหลี ก็ยังไม่อาจเทียบได้กับความกล้าที่จะทิ้งทุกอย่างเพื่อไปเริ่มต้นใหม่ที่ นั่นหรอกนะ

ผมไม่ได้เป็นแฟนคลับของ เจบอมแห่ง 2PM แต่ในฐานะเพื่อนของ JAY PARK จากซีแอตเทิล ผมรู้สึกเสียใจมาก หมายความว่าอย่างไรที่ว่าให้ออกจากวงไปซะ ผมคิดว่ามันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลยพวกคุณกำลังพยายามจะทำให้คนๆ หนึ่งที่เอาชนะความยากลำบากของการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย และกำลังยืนอยู่ในจุดเริ่มต้นเกลียดเกาหลีไปตลอดด้วยการฝังเขาทั้งเป็นด้วย เสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายจากพวกชาวเนตและไล่เขากลับอเมริกาอย่างนั้นหรือ ครับ?

จากที่ได้อ่านที่คุณแปลข้อความของเขาแล้ว น่าขำที่มันถูกแปลออกมาในเชิงลบมากขนาดนั้น คุณน่าจะไปเป็นนักเขียนนะครับ อย่ามาเป็นนักแปลเลย

เมื่อไม่นานนี้เองที่ผมได้อ่านความคิดเห็นถึงเจ บอม ข้อความจำพวก "เจ้าคนอเมริกัน" "ผิดหวังชะมัด" "กลับอเมริกาของนายไปซะ Yankee Bitch!"ดูจะเป็นข้อความที่ได้รับความนิยมจากทุกๆที่ มากเลยนะครับ

แต่ ทำไมตอนนี้พอข่าวประกาศเรื่องที่ว่าเขาจะไปจริงๆ ความคิดเห็นอย่าง "เราละอายใจเหลือเกิน" หรือ "เราไล่คนมีความสามารถขนาดนั้นออกไปหรือนี่" ถึงกลายมาเป็นความคิดเห็นยอดนิยมไปได้ล่ะครับ?... ไม่ดูเสแสร้งไปหน่อยหรือ?...

พวกคุณเป็นคนทำให้เกิดโรคแล้วตอนนี้จะ มาเสนอตัวรักษาหรือไง?* (*คาดว่าประโยคสุดท้ายเป็นกลายๆ สำนวนเกาหลี ประมาณว่าตบหัวแล้วลูบหลังบ้านเราแต่แรงกว่า)

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งดใช้ภาษาวิบัติและหลีกเหลี่ยงความเห็นทำร้ายจิตใจผู้อื่นขอบคุณมากคะ